เพชรเม็ดงาม .. ทรงแตกต่าง เผยเสน่ห์ของเพชรหลากหลายรูปทรง (Ep.2)
- มกราคม 4, 2025
กลับมาเจอกันอีกครั้งนะคะ วันนี้เราจะพาทุกท่านไปค้นหาเพชรในฝันที่ใช่สำหรับคุณกันต่อ ตามที่สัญญากันไว้ใน Ep. ที่แล้วกันค่ะ พร้อมแล้ว ไปต่อกันเลย!
เพชรทรงปริ๊นเซส ( Princess Cut ) เป็นอีกหนึ่งทรงยอดนิยมที่ดูทันสมัยและหรูหราในเวลาเดียวกัน ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมที่มีมุมคมชัด บวกกับการเจียระไนแบบพิเศษทำให้เกิดประกายแวววาวไม่แพ้ทรงกลมเลยค่ะ แถมยังให้ลุคที่ดูแข็งแกร่งและโมเดิร์น เหมาะกับคนที่ชอบสไตล์ที่โดดเด่นแต่ยังคงความคลาสสิกไว้อยู่เล็กน้อย ทรงนี้มักเป็นที่ชื่นชอบของคนที่มีบุคลิกมั่นใจและมีสไตล์เฉพาะตัว
เพชรทรงคุชชั่น ( Cushion Cut ) เป็นอีกหนึ่งทรงที่ผสมผสานความคลาสสิกและความโรแมนติกไว้ได้อย่างลงตัว ด้วยลักษณะสี่เหลี่ยมมุมมนคล้ายหมอนนุ่ม ๆ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ ” คุชชั่น ” ทรงนี้มีการเจียระไนที่ช่วยให้แสงสะท้อนนุ่มนวลและอบอุ่นกว่าเพชรทรงเหลี่ยมอื่น ๆ ให้ลุคที่ดูน่ารัก แต่ก็ยังคงความหรูหราในแบบฉบับของตัวเอง เพชรทรงนี้เหมาะกับคนที่ชอบความสวยหวานและความเป็นธรรมชาติเล็ก ๆ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่อยากได้เพชรที่ดูอ่อนโยนและอบอุ่นค่ะ
เพชรทรงแอชเชอร์ ( Asscher Cut ) เป็นทรงที่มีความหรูหราและมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ด้วยการเจียระไนแบบขั้นบันได ( step cut ) และลักษณะสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มุมทั้งสี่ตัดเฉียงอย่างสวยงาม ทำให้เกิดลุคที่ดูคล้ายทรงเอมเมอรัล แต่มีประกายมากกว่า เรียกได้ว่าเป็นทรงที่ให้ประกายสะท้อนลึกเหมือน ( Hall of Mirrors ) เพชรทรงนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคอาร์ตเดโค เหมาะกับคนที่ชื่นชอบสไตล์วินเทจและความมีเสน่ห์แบบย้อนยุค ใครที่มองหาเพชรที่ดูหรูหราและคลาสสิกแบบมีเอกลักษณ์ ทรงแอชเชอร์คือตัวเลือกที่ไม่ทำให้ผิดหวังเลยค่ะ
เพชรทรงหยดน้ำ ( Pear Cut ) หรือที่เรียกกันว่าทรงลูกแพร์ เป็นเพชรที่มีลักษณะผสมระหว่างทรงกลมและทรงมาร์คีส์ ทำให้ได้รูปทรงที่มีปลายแหลมและฐานโค้งมน ดูคล้ายหยดน้ำหรือน้ำตา มีความสง่างามที่โดดเด่นและเป็นที่นิยมมาก เพราะให้ลุคที่ดูหรูหราแต่ก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยน นุ่มนวล เพชรทรงนี้มีเสน่ห์ตรงที่ช่วยให้ดูนิ้วเรียวยาวเมื่อสวมใส่ในรูปแบบของแหวน หรือให้ลุคที่ดูสวยงาม หวาน และสะดุดตาเมื่อใช้เป็นต่างหูหรือจี้ห้อยคอค่ะ เพชรทรงหยดน้ำเหมาะกับคนที่ชอบความแปลกใหม่และต้องการความอ่อนหวานที่ผสมกับความสง่างามเป็นที่สุดเลยค่ะ
เพชรทรงเรเดียน ( Radiant Cut ) เป็นการผสมผสานระหว่างความหรูหราของทรงสี่เหลี่ยมและความแวววาวของทรงแปดเหลี่ยม ด้วยการเจียระไนที่มีเหลี่ยมที่คมชัด เพชรทรงนี้จึงสามารถสะท้อนแสงได้ดีเยี่ยม ทำให้เพชรมีความสวยงามและประกายที่น่าทึ่ง เปล่งประกายได้ทั้งในแสงธรรมชาติและแสงสว่างเทียม ( แสงจากหลอดไฟต่างๆ ) ซึ่งเพชรทรงนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสวยงามที่มีความโดดเด่นแต่ยังคงความคลาสสิกไว้ในตัวเอง ลุคที่ได้จะดูหรูหราและทันสมัยในเวลาเดียวกัน ทั้งยังช่วยให้แหวนหรือเครื่องประดับดูมีเอกลักษณ์ สวยงาม และไม่เหมือนใครค่ะ
เพชรทรงบาเก็ต ( Baguette Cut ) เป็นเพชรที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือบางครั้งอาจมีมุมโค้งเล็กน้อย มีความเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความหรูหรา การเจียระไนเป็นแบบขั้นบันได ( step cut ) ทำให้เพชรทรงบาเก็ตสะท้อนแสงอย่างนุ่มนวลและไม่สะดุดตาจนเกินไป จึงเหมาะกับคนที่ชอบสไตล์ที่หรูหราแต่ไม่ต้องการประกายแวววาวที่มากขนาดเพชรทรงอื่นๆ ทำให้มักจะถูกใช้เป็นเพชรเสริมในแหวนหมั้นหรือเครื่องประดับอื่นๆ โดยจะใช้ในลักษณะเรียงต่อกันหลายเม็ดเพื่อเพิ่มความโดดเด่นและความสวยงามให้กับดีไซน์โดยรวม นอกจากนี้ยังเป็นทรงที่ได้รับความนิยมในเครื่องประดับแบบวินเทจ เพราะให้ลุคที่ดูคลาสสิกและสง่างามในแบบสมัยก่อน
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หวังว่าบทความเซ็ตนี้จะทำให้ทุกท่านได้ค้นพบความแตกต่างที่ทำให้เพชรแต่ละทรงมีเสน่ห์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นทรงแฟนซีที่โดดเด่นหรือทรงมาตรฐานที่ไม่เคยตกยุค เราจะเห็นได้ว่าเพชรไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังมีความหมายและสไตล์ที่เหมาะกับแต่ละบุคคลอีกด้วยค่ะ หากอยากรู้เรื่องไหนเพิ่มเติม สามารถรีเควสหลังไมค์มาได้ตลอดเลยนะคะ พบกันใหม่ครั้งหน้าค่า